วันอาทิตย์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

One More Light - Linkin Park


จริงๆ แล้วผมมีเพลงอีกเพลงนึงที่กำลังจะแปล แต่เมื่อเช้าผมได้อ่านข่าวอันน่าเศร้าเสียใจอยากยิ่ง เป็นข่าวของการจากไปของ Chester Bennington ที่เป็นหนึ่งในนักร้องนำของวง Linkin Park ที่เป็นตำนานในวงการเพลง ทำเอาผมช๊อคไปมากเพราะเพลงของวงนี้ทำให้ผมผ่านช่วงร้ายๆมาได้ในตอนช่วงเด็กของผม และเสหมือนเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกัน
เพลงนี้เกี่ยวกับการจากไปของเพื่อนคนนึงที่ทำงานในค่ายเพลงของพวกเขา และเป็นการจากไปที่เร็วมาก พวกเขาจึงได้แต่งเพลงเพื่อรำลึงถึงเพื่อนๆ ที่จากไปของเขา
เพลงนี้เป็นเพลงที่มีทำนองและเนื้อร้องที่เศร้ามาก

[Verse 1]
Should've stayed, were there signs, I ignored?
Can I help you, not to hurt, anymore?
We saw brilliance, when the world, was asleep
There are things that we can have, but can't keep

[Chorus]
If they say
Who cares if one more light goes out?
In the sky of a million stars
It flickers, flickers
Who cares when someone's time runs out?
If a moment is all we are
Or quicker, quicker
Who cares if one more light goes out?
Well I do

[Verse 2 ]
The reminders, pull the floor from your feet
In the kitchen, one more chair than you need, oh
And you're angry, and you should be, it's not fair
Just 'cause you can't see it, doesn't mean it, isn't there

[Chorus]
If they say
Who cares if one more light goes out?
In the sky of a million stars
It flickers, flickers
Who cares when someone's time runs out?
If a moment is all we are
Or quicker, quicker
Who cares if one more light goes out?
Well I do

[Instrumental + Bridge]
(I do)

[Chorus/Outro]
Who cares if one more light goes out?
In the sky of a million stars
It flickers, flickers
Who cares when someone's time runs out?
If a moment is all we are
Or quicker, quicker
Who cares if one more light goes out?
Well I do
Well I do
[Verse 1]
ฉันน่าจะอยู่ต่อ มีสัญญาณอะไรที่ฉันไม่เห็น
ฉันช่วยอะไรได้ไหม เพื่อให้ไม่เจ็บต่อไป
เราเห็นแสงสว่างตอนโลกหลับไหล
เรามีสิ่งของได้ แต่เราเก็บรักษามันไว้ไม่ได้

[Corus]
ถ้าเขาบอกว่า
ใครสนถ้าแสงจะดับอีกแค่ดวงนึง
ในท้องฟ้าที่มีดาวเป็นล้านดวง
มันเป็นแค่แสงระยิบระยับ
ใครสนถ้าเวลาของคนๆนึงได้หมดลง
ในเมื่อเรามีเวลาแค่ช่วงเดียว
หรือเร็วกว่านั้นๆ
ใครสนถ้าแสงสว่างดับไปอีกดวง
ฉันไงที่สน

[Verse 2 ]
ความสงจำต่างๆ ทำให้เจ็บยิ่งนัก
ในห้องครัว มีเก้าอีกเกินมาหนึ่งตัว
และเธอโกรธ และเธอควรที่จะโกรธ เพราะมันไม่ยุติธรรม
แค่เพราะเธอไม่เห็น ไม่ได้แปลว่ามันไม่มีอยู่

[Corus]
ถ้าเขาบอกว่า
ใครสนถ้าแสงจะดับอีกแค่ดวงนึง
ในท้องฟ้าที่มีดาวเป็นล้านดวง
มันเป็นแค่แสงระยิบระยับ
ใครสนถ้าเวลาของคนๆนึงได้หมดลง
ในเมื่อเรามีเวลาแค่ช่วงเดียว
หรือเร็วกว่านั้นๆ
ใครสนถ้าแสงสว่างดับไปอีกดวง
ฉันไงที่สน

[Instrumental + Bridge]
(ฉันไง)

[Chorus/Outro]
ถ้าเขาบอกว่า
ใครสนถ้าแสงจะดับอีกแค่ดวงนึง
ในท้องฟ้าที่มีดาวเป็นล้านดวง
มันเป็นแค่แสงระยิบระยับ
ใครสนถ้าเวลาของคนๆนึงได้หมดลง
ในเมื่อเรามีเวลาแค่ช่วงเดียว
หรือเร็วกว่านั้นๆ
ใครสนถ้าแสงสว่างดับไปอีกดวง
ฉันไงที่สน
ฉันไงที่สน


Brilliance แปลว่าแสงสว่างที่สว่างมาก หรือสามารถแปลว่าคนที่เก่งมากได้เช่นกัน ในเนื้อร้องที่ว่า we saw brilliance, when the world was asleep หมายถึงว่า เราได้เห็นคนที่เก่ง หรือคนที่มีความสำคัญ ในตอนที่ทั้งโลกเมินเฉย หรือไม่สนใจ
Pull the floor from your feet เป็นการเล่นคำมาจาก pull the rug from you feet ที่แปลว่าการทำให้สูญเสียสิ่งสำคัญไป ในเนื้อร้องเขาใช้คำว่า floor เพื่อที่จะทำให้ดูรุนแรงกว่า rug ที่เป็นแค่พรม เพื่อที่จะได้โชว์ให้เห็นว่าได้สูญเสียคนที่สำคัญมากๆ ไป
Flickers แปลว่าระยิบระยับเช่นดวงดาวบนฟ้า เขาใช้คำนี้เพื่อที่จะบอกว่าคนๆนึงนั้นไม่สำคัญมากสำหรับคนส่วนใหญ่

แต่จริงๆแล้วทุกคนสำคัญและเป็นที่รักและมีคนรักอยู่เสมอ ผมจึงอยากบอกกับทุกคนว่า เมื่อคุณคิดที่จะจบชีวิตตัวเองนั้น มีคนจะคิดถึงคุณ จะมีคนร้องให้เพราะคุณ และโลกนี้ก็จะหม่นหมองลงเมื่อขาดคุณไป ถ้าคุณคิดว่าหาทางออกไม่ได้แล้ว โปรดปรึกษาจิตแพทธ์เถอะครับ ถึงใครจะหาว่าพวกคนไปหาจิตแพทธ์นั้นโรคจิต อย่าไปฟังครับ จริงๆแล้วมีคนอีกเยอะที่ปกติมากๆๆ แล้วต้องไปปรึกษาจิตแพทธ์ก็มีเยอะแยะไปครับ เพราะในที่สุดแล้ว ทุกๆคนย่อมจะมีคนๆนึงที่ขาดคุณไปไม่ได้

วันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

Attention - Charlie Puth


เพลงะนี้เป็นเพลงที่ Charlie Puth ได้แต่งไว้เพื่อเล่าถึงเรื่องราวของเขาที่มีแฟนเก่าตามก่อกวนเขาเพื่อที่จะไม่ให้เขาลืมเรื่องราวของเธอไปเพียงเพราะเธออยากได้ความสนใจจากเขา เพลงนี้เป็นเพลงจังหวะกลางๆ ให้ความรู้สึกถึงความโหยหวนของคนรักเก่า เรามาดูกันครับว่าเนื้อเพลงแต่ละส่วนแปลว่าอะไร

[Intro]
Woah-oah, hm-hmm

[Verse 1]
You've been runnin' 'round, runnin' 'round, runnin' 'round
Throwin' that dirt all on my name
'Cause you knew that I, knew that I, knew that I'd
Call you up
You've been going 'round, going 'round, going 'round
Every party in LA
'Cause you knew that I, knew that I, knew that I'd
Be at one, oh

[Pre-Chorus]
I know that dress is karma, perfume regret
You got me thinking 'bout when you were mine, ooh
And now I'm all up on ya, what you expect?
But you're not coming home with me tonight

[Chorus]
You just want attention, you don't want my heart
Maybe you just hate the thought of me with someone new
Yeah, you just want attention, I knew from the start
You're just making sure I'm never gettin' over you, oh

[Verse 2]
You've been runnin' 'round, runnin' 'round, runnin' 'round
Throwin' that dirt all on my name
'Cause you knew that I, knew that I, knew that I'd
Call you up
Baby, now that we're, now that we're, now that we're
Right here standin' face to face
You already know, 'ready know, 'ready know
That you won, oh

[Pre-Chorus]
I know that dress is karma, perfume regret
You got me thinking 'bout when you were mine, ooh
And now I'm all up on ya, what you expect? (oh baby)
But you're not coming home with me tonight, oh no

[Chorus]
You just want attention, you don't want my heart
Maybe you just hate the thought of me with someone new (someone new)
Yeah, you just want attention (oh), I knew from the start (the start)
You're just making sure I'm never gettin' over you (over you), oh

[Bridge]
What are you doin' to me?
What are you doin', huh? (What are you doin'?)
What are you doin' to me?
What are you doin', huh? (What are you doin'?)
What are you doin' to me?
What are you doin', huh? (What are you doin'?)
What are you doin' to me?
What are you doin', huh?

[Pre-Chorus]
I know that dress is karma, perfume regret
You got me thinking 'bout when you were mine
And now I'm all up on ya, what you expect?
But you're not coming home with me tonight

[Chorus]
You just want attention, you don't want my heart
Maybe you just hate the thought of me with someone new
Yeah, you just want attention, I knew from the start
You're just making sure I'm never gettin' over you, oh

[Outro]
What are you doin' to me? (Hey)
What are you doin', huh? (What are you doin', love?)
What are you doin' to me?
What are you doin', huh? (Yeah, you just want attention)
What are you doin' to me? (I knew from the start)
What are you doin' huh? (You're just making sure I'm never gettin' over you)
What are you doin' to me?
What are you doin', huh?
[Intro]
โว โฮ, ฮื้ม ฮืม

[Verse 1]
เธอนั้นไปรอบๆ เรื่อยๆ
เพื่อที่จะสร้างเรื่องราวที่เกี่ยวกับฉัน
เพราะเธอรู้ว่าฉัน รู้ว่าฉัน รู้ว่าฉัน
จะโทรหาเธอ
เธอนั้นไปรอบๆ เรื่อยๆ
ในทุกปาตี้ใน LA
เพราะเธอรู้ว่าฉัน รู้ว่าฉัน รู้ว่าฉัน
จะไปเหมือนกัน

[Pre-Corus]
ฉันรู้ว่าชุดเธอนั้นมันมีกรรม กลิ่นน้ำหอมที่เย้ายวน
เธอทำให้ฉันนึกถึงตอนที่เธอยังเป็นของฉัน โอ้ว
และตอนนี้ฉันติดใจเธอแล้ว เธอหวังอะไรไว้
แต่เธอไม่ได้กลับไปบ้านฉันในคืนนี้หรอก

[Chorus]
เธอแค่ต้องการความสนใจจากฉัน เธอไม่ได้ต้องการหัวใจฉัน
เธออาจจะแค่ไม่อยากเห็นฉันอยู่กับคนใหม่ (คนใหม่)
เธอแค่ต้องการความสนใจจากฉัน (โอ้ว), ฉันรู้อยู่แล้วตั้งแต่แรก (ตั้งแต่แรก)
เธอแค่ไม่อยากให้ฉันลืมเธอไปได้ (ลืมเธอไปได้), โอ้ว

[Verse 2]
เธอนั้นไปรอบๆ เรื่อยๆ
เพื่อที่จะสร้างเรื่องราวที่เกี่ยวกันฉัน
เพราะเธอรู้ว่าฉัน รู้ว่าฉัน รู้ว่าฉัน
จะโทรหาเธอ
และตอนนี้เรา ตอนนี้เรา ตอนนี้เรา
ยืนอยู่ตรงหน้ากัน
เธอนั้นรู้ เธอนั้นรู้ เธอนั้นรู้
ว่าเธอชนะแล้ว โอ้ว

[Pre-Chorus]
ฉันรู้ว่าชุดเธอนั้นมันมีกรรม กลิ่นน้ำหอมที่เย้ายวน
เธอทำให้ฉันนึกถึงตอนที่เธอยังเป็นของฉัน โอ้ว
และตอนนี้ฉันติดใจเธอแล้ว เธอหวังอะไรไว้
แต่เธอไม่ได้กลับไปบ้านฉันในคืนนี้หรอก

[Chorus]
เธอแค่ต้องการความสนใจจากฉัน เธอไม่ได้ต้องการหัวใจฉัน
เธออาจจะแค่ไม่อยากเห็นฉันอยู่กับคนใหม่ (คนใหม่)
เธอแค่ต้องการความสนใจจากฉัน (โอ้ว), ฉันรู้อยู่แล้วตั้งแต่แรก (ตั้งแต่แรก)
เธอแค่ไม่อยากให้ฉันลืมเธอไปได้ (ลืมเธอไปได้), โอ้ว

[Bridge]
เธอทำอะไรกับฉัน
เธอทำอะไร, ฮา? (เธอทำอะไร)
เธอทำอะไรกับฉัน
เธอทำอะไร, ฮา? (เธอทำอะไร)
เธอทำอะไรกับฉัน
เธอทำอะไร, ฮา? (เธอทำอะไร)
เธอทำอะไรกับฉัน
เธอทำอะไร, ฮา?

[Pre-Chorus]
ฉันรู้ว่าชุดเธอนั้นมันมีกรรม กลิ่นน้ำหอมที่เย้ายวน
เธอทำให้ฉันนึกถึงตอนที่เธอยังเป็นของฉัน โอ้ว
และตอนนี้ฉันติดใจเธอแล้ว เธอหวังอะไรไว้
แต่เธอไม่ได้กลับไปบ้านฉันในคืนนี้หรอก

[Chorus]
เธอแค่ต้องการความสนใจจากฉัน เธอไม่ได้ต้องการหัวใจฉัน
เธออาจจะแค่ไม่อยากเห็นฉันอยู่กับคนใหม่
เธอแค่ต้องการความสนใจจากฉัน ฉันรู้อยู่แล้วตั้งแต่แรก
เธอแค่ไม่อยากให้ฉันลืมเธอไปได้, โอ้ว

[Outro]
เธอทำอะไรฉัน? (เฮ้)
เธอทำอะไร, โฮ้ว? (เธอทำอะไร, ที่รัก?)
เธอทำอะไรฉัน?
เธอทำอะไร, โฮ้ว? (เธอแค่ต้องการความสนใจ)
เธอทำอะไรฉัน? (ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้ว)
เธอทำอะไร, โฮ้ว? (เธอแค่ไม่อยากให้ฉันลืมเธอไปได้)
เธอทำอะไรฉัน?
เธอทำอะไร, โฮ้ว?


มาดูคำศัพที่ใช้ในเพลงนี้กันครับ อันแรกก็เรื่มจากชื่อเพลงเลยคือ Attention เป็นคำนาม แปลว่าความสนใจ ใช้ได้ในหลายโอกาสเช่นเวลาทหารสั่งให้แถวตรงเขาจะบอกว่า Attention! หรือเวลาผู้ประกาศต้องการเรียกความสนใจเขาจะบอกว่า Attention please เหมือนใน MRT เวลาที่เขาจะประกาศว่ารถมาช้าหรือไม่จอดที่สถานนีนี้ครับ หรืออีกประโยคที่ใช้กันบ่อยก็คือ May I have your attention please? แปลว่ากรุณาขอความสนใจสักครู่ครับ
คำต่อมาคือ runnin' 'round จริงๆ แล้วคือ running around ที่แปลว่าวิ่งไปรอบๆ แต่ในเพลงตอนที่ร้องออกมาเขาไม่ได้ออกเสียงครบทุกตัวเลยใช้ ' แทนครับซึ่งเป็นภาษาพูดในบางแทบหรือบางคน เขาจะพูดไม่เต็มคำครับ
Throwing dirt: คำนี้จริงๆ แล้วถ้าแปลตรงตัวคือโยนดิน แต่พอมารวมกันจะเป็นศัพแสลงที่แปลว่าโยนความผิดใส่ หรือหาเรื่องให้ครับจึงแปลประโยคในเพลงว่า Throwing dirt all over my name หมายถึง ใส่ร้ายหรือสร้างข่าวลือให้กับเขาครับ
คำว่า karma แปลว่ากรรม จึงสามารถแปลประโยคว่า I know that dress is karma ได้ว่า เมื่อเธอใส่ชุดนั้นฉันรู้เลยว่าจะเกิดเรื่อง เพราะเขามีความสงจำกับชุดๆ นั้นที่เธอใส่
Perfume แปลว่าน้ำหอม ส่วนคำว่า regret แปลว่าความเสียใจ เมื่อรวมกันแล้ว มันไม่มีความหมายในภาษาอังกฤษ แต่เมื่อรวมกับประโยคก่อนหน้านี้จึงสรุปได้ว่า น้ำหอมกลิ่นนี้ทำให้เขาโหยหาผู้หญิงคนนี้ แต่เขาไม่อยากกลับไปมีความสัมพันธ์แล้ว แต่เมื่อได้กลิ่นก็อดไม่ได้
คำว่า love ในประโยค What are you doing, love? นั่นไม่ได้แปลว่าความรัก แต่ในภาษาอังกฤษสามารถใช้แทนคำว่าคนรักได้ หรือในประเทศอังกฤษ เขาจะใช้เรียกผู้หญิงหรือเด็กว่า love ได้เหมือนกัน

และนี้คือความหมายของส่วนต่างๆ ในเพลงนี้ครับ ขอให้สนุกกับการฟังเพลงนะครับ

วันอังคารที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

Adventure of A Lifetime - Coldplay


สวัสดีครับ กลับมาอีกแล้วกลับอีกครั้งพร้อมกับเพลงของ Coldplay ที่ชื่อว่า Adventure of A Lifetime(อ่านว่า เอ็ดเว็นเจ้อ ออฟ อะ ไลฟ์ไทม์) หรือที่แปลว่าการผจญภัยสุดขั้ว ที่แปลได้แบบนี้เพราะว่าคำว่า adventure of a lifetime เป็นศัพท์แสลงที่แปลว่า การพจญภัยที่น่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิต เพลงนี้มีทำนองที่มีความสดใสและสนุกในตัวเป็นการกลับมาของ Chris Martin(อ่านว่า คริส มาติน) หลังจากที่เขาทำใจได้กับการหย่าร้างกับ Gwyneth Paltrow(อ่านว่า กวินเน็ต แพวโท) เอาละครับ เรามาแปลเพลงของเขากันครับ

[Verse 1]
Turn your magic on
Umi she'd say
Everything you want's a dream away
An we are legends, every day
That's what she told me

[Refrain]
Turn your magic on, to me she'd say
Everything you want's a dream away
Under this pressure, under this weight
We are diamonds

[Chorus 1]
Now I feel my heart beating
I feel my heart underneath my skin
And I feel my heart beating
Oh, you make me feel
Like I'm alive again
Alive again
Oh, you make me feel
Like I'm alive again

[Verse 2]
Said I can't go on, not in this way
I'm a dream that died by light of day
Gonna hold up half the sky and say
Only I own me

[Chorus 2]
And I feel my heart beating
I feel my heart underneath my skin
Oh, I can feel my heart beating
Cause you make me feel
Like I'm alive again
Alive again
Oh, you make me feel
Like I'm alive again

[Refrain]
Turn your magic on, Umi she'd say
Everything you want's a dream away
Under this pressure, under this weight
We are diamonds taking shape
We are diamonds taking shape
(Woo, woo)

[Bridge]
If we've only got this life
This adventure, oh then I
And if we've only got this life
You get me through
And if we've only got this life
In this adventure, oh then I
Want to share it with you
With you, with you
Yeah I do

[Outro]
(Woo hoo, woo hoo)
(Woo hoo, woo hoo)
(Woo hoo, woo hoo)
(Woo hoo, woo hoo)
(Woo hoo, woo hoo)
(Woo hoo, woo hoo)
[Verse 1]
ใช้เวทย์มนต์ของคุณ
แม่ผมได้บอกไว้
ทุกอย่างที่คุณอยากได้อยู่แค่เอื้อม
ทุกๆ วัน เราคือตำนาน
นั่นคือที่เขาบอกผมไว้

[Refrain]
ใช้เวทย์มนต์ของคุณ แม่ผมได้บอกไว้ว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นอยู่แค่เอื้อม
ภายใต้แรงกดดันนี้
เราคือเพชร

[Chorus 1]
ตอนนี้รู้สึกได้ว่าหัวใจเต้นแรง
รู้สึกได้ถึงแรงเต้นของหัวใจใต้ผิวหนัง
และรู้สึกได้ว่าหัวใจเต้นแรง
เธอทำให้ฉันรู้สึก
ว่ามีชีวิตอีกครั้ง
มีชีวิตอีกครั้ง
เธอทำให้ฉันรู้สึก
ว่ามีชีวิตอีกครั้ง

[Verse 2]
ใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไม่ได้นะ
ผมเป็นความฝันที่หายไปในแสงตะวัน
จะรับผิดชอบในหน้าที่ของผมและบอกกับโลกว่า
ผมเป็นนายของผม

[Chorus 2]
ตอนนี้รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรง
รู้สึกได้ถึงแรงเต้นหัวใจใต้ผิวหนัง
และรู้สึกได้ว่าหัวใจเต้นแรง
เพราะเธอทำให้ฉันรู้สึก
ว่าฉันมีชีวิตอีกครั้ง
มีชีวิตอีกครั้ง
เธอทำให้ฉันรู้สึก
เหมือนมีชีวิตอีกครั้ง

[Refrain]
ใช้เวทย์มนต์ของคุณ แม่ผมได้บอกไว้ว่า
ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นอยู่แค่เอื้อม
ภายใต้แรงกดดันนี้
เราคือเพชรทที่กำลังสร้างตัว
เราคือเพชรทที่กำลังสร้างตัว
(วู้, วู้)

[Bridge]
ถ้าฉันมีแค่ชีวิตนี้
ผจญภัยครั้งนี้ของฉัน
และถ้าฉันมีแค่ชีวิตนี้
เธอพาฉันผ่านมันไปได้
และถ้าเรามีแค่ชีวิตนี้
ในการผจญภัยครั้งนี้
ฉันอยากจะร่วมทางไปกับเธอ
กับเธอ กับเธอ
ใช่ฉันอยากทำมัน

[Outro]
(วู้อู้, วู้อู้)
(วู้อู้, วู้อู้)
(วู้อู้, วู้อู้)
(วู้อู้, วู้อู้)
(วู้อู้, วู้อู้)
(วู้อู้, วู้อู้)

วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

7 Years - Lukas Graham

ที่ผมเลือกเพลงนี้เพราะเนื้อร้องไม่ยากและเพลงนี้เล่าเรื่องราวงายๆ ที่สามารถฟังตามและจินตนาการได้ เพลงนี้ร้องโดยวง Lukas Graham(อ่านว่า ลูคัส แกรแฮม) ที่เป็นวงชาวเดนิช


เนื้อร้อง
[Chorus 1]
Once I was seven years old my momma told me
Go make yourself some friends or you'll be lonely
Once I was seven years old

[Verse 1]
It was a big big world, but we though we were bigger
Pushing each other to the limits, we were learning quicker
By eleven smoking herb and drinking burning liquor
Never rich so we were out to make that steady figure

[Chorus 2]
Once I was eleven years old my daddy told me
Go get yourself a wife or you'll be lonely
Once I was eleven years old

[Verse 2]
I always had that dream like my daddy before me
So I started writing songs, I started writing stories
Something about that glory just always seemed to bore me
Cause only those I really love will ever really know me

[Chorus 3]
Once I was 20 years old, my story got told
Before the morning sun, when life was lonely
Once I was 20 years old

[Verse 3]
I only see my goals, I don't believe in failure
Cause I know the smallest voices, they can make it major
I got my boys with me at least those in favor
And if we don't meet before I leave, I hope I'll see you later

[Chorus 4]
Once I was 20 years old, my story got told
I was writing about everything, I saw before me
Once I was 20 years old
Soon we'll be 30 years old, our songs have been sold
We've traveled around the world and we're still roaming
Soon we'll be 30 years old

[Verse 4]
I'm still learning about life
My woman brought children for me
So I can sing them all my songs
And I can tell them stories
Most of my boys are with me
Some of them are still out seeking glory
And some I had to leave behind
My brother I'm still sorry

[Bridge]
Soon I'll be 60 years old, my daddy got 61
Remember life and then your life becomes a better one
I made a man so happy when I wrote a letter once
I hope my children come and visit, once or twice a month

[Chorus 5]
Soon I'll be 60 years old, will I think the world is cold
Or will I have a lot of children who can warm me
Soon I'll be 60 years old
Soon I'll be 60 years old, will I think the world is cold
Or will I have a lot of children who can hold me
Soon I'll be 60 years old

[Chorus 1 recap]
Once I was seven years old, my momma told me
Go make yourself some friends or you'll be lonely
Once I was seven years old
[คอรัส 1]
ตอนที่ผมนั้นเจ็ดขวบแม่บอกผมว่า
ไปหาเพื่อนซะไม่เช่นนั้นจะเหงา
เมื่อตอนที่ผมเจ็ดขวบ

[Verse 1]
โลกนั้นช่างกว้างใหญ่แต่เราคิดว่าเรารู้ทันโลก
ผลักดันให้ไปต่อ ทำให้เราได้เรียนรู้อย่างรวดเร็ว
ตอนอายุสิบเอ็ดก็สูบบุหรี่(หรือไม่ก็สูบยา) และดื่มเหล้า
ไม่เคยร่ำรวย เลยออกไปหางานที่ได้เงินอย่างมั่นคง


[คอรัส 2]
ตอนที่อายุสิบเอ็ดปี พ่อผมบอกว่า
ให้ไปหาภรรยาซะไม่งั้นจะเหงา
เมื่อตอนที่ผมสิบเอ็ดปี

[Verse 2]
ผมมีความฝันที่เหมือนของพ่อผม
ผมเลยเรื่มเขียนเพลงและ เรื่องราว
แต่มีบางสิ่งเกี่ยวกับความดังที่ทำให้ผมเบื่อ
เพราะมีแต่คนที่ผมรักเท่านั่นที่จะรู้จักผมจริงๆ


[คอรัส 3]
เมื่อผมอายุยี่สิบ เรื่องของผมได้เผยแผ่
เมื่อตอนก่อนเช้า ตอนที่ชีวิตผมเงียบเหงา
เมื่อตอนที่ผมยี่สิบปี

[Verse 3]
ผมเห็นแค่เป้าหมายของผม ผมไม่รู้จักคำว่าล้มเหลว
เพราะเสียงแค่นิดเดียวก็สามารถทำให้มันยิ่งใหญ่ได้
ผมมีพวกพ้องของผมอยู่ อย่างน้อยก็เป็นพวกที่เห็นด้วยกับผม
ถ้าเราไม่เจอกันก่อนที่ผมจะไป ก็ขอให้ได้พบกันในอนาคต


[คอรัส 4]
เมื่อผมอายุยี่สิบ เรื่องของผมได้เผยแผ่
ผมเขียนทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเห็น
เมื่อผมอายุยี่สิบ
อีกหน่อยผมก็จะอายุสามสิบ เพลงของเราก็จะขายออก
เราออกเดินทางทั่วโลก และก็ยังเดินทางกันต่อไป
อีกหน่อยเราก็จะอายุสามสิบปี


[Verse 4]
ผมยังเรียนเกี่ยวกับการใช้ชีวิต
ภรรยาผมคลอดลูกๆ ให้ผม
เพื่อที่ผมจะได้ร้องเพลงให้เขาฟัง
และจะได้เล่าเรื่องราวต่างๆ
เพื่อนๆ ของผมยังอยู่กับผม
บางคนยังมองหาความยิ่งใหญ่
บางคนก็ทิ้งไว้ข้างหลัง
เพื่อนๆ เอ๋ย ผมขอโทษด้วยนะ

[Bridge]
อีกหน่อยผมก็จะอายุหกสิบ พ่อของผมตายตอนหกสิบเอ็ด
จำชีวิตได้ และทำให้ชีวิตดีกว่า
ผมทำให้ชายคนนึงมีความสุขด้วยการเขียนจดหมายไปหา
ผมหวังว่าลูกๆ ของผมจะมาเยี่ยมสักครั้งหรือ สองครั้งต่อเดือน


[คอรัส 5]
อีกหน่อยผมก็จะอายุหกสิบ ผมจะคิดว่าโลกนี้ช่างหนาวเหน็บ
หรือจะมีลูกๆ ที่จะทำให้อุ่นใจ
อีกหน่อยก็จะอายุหกสิบ
อีกหน่อยผมก็จะอายุหกสิบ ผมจะคิดว่าโลกนี้ช่างหนาวเหน็บ
หรือจะมีลูกๆ ที่จะมาโอบกอดผม
อีกหน่อยก็จะอายุหกสิบ

[คอรัส 1]
เมื่อก่อนผมอายุเจ็ดปี แม่ผมบอกว่า
ไปหาเพื่อนซะไม่งั้นจะเหงา
เมื่อตอนผมอายุเจ็ดปี


เอาละครับ มาเจาะลึกกัน ลูคัสได้เล่าถึงว่าตอนเด็กๆ แม่ของเขาได้พยายามให้เขาหาเพื่อนเยอะๆ เพื่อที่ในอนาคตจะได้ไม่เหงาหรือมีที่พึง เขาได้เจอเพื่อนๆ และออกไปเจอว่าโลกที่ใหญ่ที่เขาคิดเยอะ และเจอเพื่อนที่ดีและไม่ดี (ที่ชวนไปสูบบุหรี่และดื่มเหล้า) พอโตมาหน่อย พ่อของเขาก็บอกว่าให้หาภรรยาซะจะได้ไม่เหงา เขามีความฝันเหมือนพ่อของเขา เขาเลยเรื่มที่จะเขียนเพลงและ เล่นดนตรี แต่ความดังทำให้เขาไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลยเพราะเมื่อเขาดัง ก็มีคนพยายามจะมาคบหากับเขา แต่เขารู้สึกว่ามีแต่คนที่รักเท่านั้นที่จะรู้จักตัวตนเขาจริงๆ เขาพยายามที่จะทำให้เป้าหมายของเขาเป็นจริงให้ได้โดยที่ไม่หวังว่าจะสำเร็จหรือไม่ แต่เขาจะพยายามให้ดีที่สุด เขาจึงต้องทิ้งคนที่ไม่เห็นด้วยกับเขาไปเพื่อให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขาอยากทำ พอเขาอายุ 30 เขาก็เรื่มดัง เรื่มขายเพลงได้ เรื่มได้ไปทัวร์หลายๆ ประเทศ เขาได้มีลูกกับภรรยา เขาก็ร้องเพลงและเล่าเรื่องต่างๆ ให้กับลูกเขาฟัง เขายังมีเพื่อนๆ ที่เขาคบหามาตั้งแต่เด็กๆ บางคนก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ บางคนก็ต้องทิ้งไปเพื่อแต่เขาก็เสียใจที่เป็นแบบนั้น เขามองว่าอีกไม่นานเขาก็จะอายุ 60 แล้ว พ่อของเขานั้นเสียชีวิตตอนอายุ 61 เขาบอกดูชีวิตของพ่อเขาว่ามีความสุขแค่ไหนและเขาจะทำให้มีความสุขกว่านั้นให้ได้ เขาหวังว่าเขาจะลูกๆ ที่มาหาเขาเดือนละครั้ง 2 ครั้ง แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าอนาคตจะเป็นแบบที่เขาหวังไว้รึเปล่า แต่เขาก็หวังว่ามันจะดีที่สุด

ที่ผมเลือกเพลงนี้เพราะเนื้อร้องเข้าใจง่ายแต่แฝงไปด้วยความหมายอันลึกซึ้ง ทำให้น่าค้นหาและชวนฟังไปในตัว

ขอบคุณที่อ่านมาถึงจุดนี้นะครับ และไว้พบกันใหม่ในโพสหน้า

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

WELCOME!!!

สวัสดีครับ!!

ผมตั้งใจจะเขียนบล๊อกนี้เพื่อที่จะได้เรียนภาษาอังกฤษด้วยเพลงกัน เนื่องจากว่าทุกวันนี้ภาษาอังกฤษสำคัญขึ้นทุกวันๆ ทำให้ทุกคนควรเรียนรู้ภาษาอังกฤษ คนส่วนใหญ่ที่ผมเจอจะไม่กล้าเข้าไปคุยกันคนต่างชาติ หรือไม่กล้าใช้ภาษาอังกฤษเพราะกลัวว่าจะใช้ไม่ถูกหรือ จะโดนว่าๆ อวดเก่ง แต่จริงๆ แล้ว การจะเก่งภาษาใดๆ ก็ตามต้องฝึก ผมขอเปรียบเทียบกันการเล่นกีฬา ถ้านักบอลไม่ฝึกเล่นบอลเลย แล้วเขาจะเก่งได้ยังไง

ดังนั้นเรามาฝึกภาษาอังกฤษด้วยการฟังเพลงกันนะครับ!!!